3 ข้อดีที่หาจากงานอื่นไม่ได้ นอกจากการทำงาน “freelance”

HIGHLIGHT

  • ตารางการใช้ชีวิตที่มีความยืดหยุ่นสูง
  • ไม่ต้องถูกกดหัวเพียงแค่เพราะว่าอายุน้อย
  • มีไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ออกแบบได้ตามใจ

มีใครที่กำลังรู้สึกอัดอั้นอยู่กับงานประจำที่ทำอยู่บ้างไหมครับ ไม่ว่าจะเป็นการอึดอัดจากงานที่ตัวเองไม่ได้อยากทำแต่อาจจำเป็นต้องทำเพราะยังมีรายได้ที่ดีอยู่ หรืออาจเป็นการที่ต้องอึดอัดมาจากตัวของผู้ร่วมงาน เจ้านาย ที่ไม่เคยฟังหรือสนใจความเห็นของเราเลยในห้องประชุม

เรียกได้ว่าทำให้เราไม่กล้าที่จะเสนอความเห็นอะไรในหัวออกไปเลย..

ปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นมาอยู่เสมอกับการทำงานที่อยู่ในรูปแบบขององค์กรหรือการทำงานประจำนั่นเอง หลายๆ คนเบื่อและอึดอัดกับเรื่องราวหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น แต่ก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับก็ต้องทนรับสภาพกันต่อๆ ไป

และคงเพราะตัวเองรู้สึกหมดหวังหมดไฟ กับงานประจำที่ตัวเองกำลังทำอยู่แล้วนั้น จึงมีทำให้คนทำงานประจำส่วนหนึ่งเลือกที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยการออกมาทำงาน “ฟรีแลนซ์” กันอย่างเต็มตัวนั่นเอง

ฟรีแลนซ์คือการประกอบอาชีพอิสระโดยรับงานค่าจ้างเป็นแบบครั้งๆ ต่องาน โดยไม่จำกัดเลยว่าจะเป็นงานชนิดไหนๆ บนโลก เพราะเราสามารถเลือกทำมันได้ทั้งหมด

ทำไมกันนะ…. งานฟรีแลนซ์มันมีข้อดีอะไรหรือ จึงทำให้หลายต่อหลายคนเลือกและสนใจอยากลงมือทำ มากกว่าการที่จะทำงานประจำที่มีทั้งความมั่นคง ความปลอดภัย สวัสดิ์การณ์ ที่ดีมากขนาดนี้ไปเฉยๆ เลยซะแบบนั้น

ข้อดีอันดับต้นๆ ของการเลือกทำงานอิสระนั้น คือเราจะสามารถเลือกงานที่เราอยากทำและไม่อยากทำได้นะเอง อย่างใครที่ชอบถ่ายรูปก็ไปรับงานถ่ายรูปจริงๆ จังๆ ไปเลย จึงทำให้ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความสนุกและตื่นเต้นครับ ที่จะได้ท้าทายตัวเองไปพร้อมกับทำสิ่งที่ชอบนั่นเอง

วันนี้เรามาดูคำตอบกันเลยว่า ข้อดีของการทำงานฟรีแลนซ์ที่น่าสนใจกว่าการทำงานประจำนั้น มีอะไรบ้างและจะโดนจนต้องวิ่งไปยื่นใบลาออกตอนนี้เลยหรือเปล่า ไปชมกันได้เลยนั่นเองครับ

3 ข้อดี ที่คุณไม่สามารถหาได้จากที่อื่นเลย นอกจากตัดสินใจทำงานเป็น “ฟรีแลนซ์” เท่านั้น


ทํางานfreelanceความยืดหยุ่นสูง

1. ตารางการใช้ชีวิตที่มีความยืดหยุ่นสูงเป็นอย่างมาก

อาชีพอย่างการเป็นฟรีแลนซ์นั้นจะไม่ถูกจำกัดโดยกติกาขององค์กรและสังคมส่วนมาก นั้นทำให้เมื่อเราอยากจะตื่นนอนกี่โมงก็ตื่น ทำงานกี่โมงก็ทำ เลิกงานเมื่อไหร่ก็ได้หรืออยากจะพักเมื่อไหร่ก็ได้

โดยข้อแม้เพียงแค่อย่างเดียวคืองานของคุณจะต้องเสร็จทันเวลา และเสร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น

อันนี้คือก็จะมีหลายๆ คนที่ติดสบายมากเกินไป แล้วเกิดไฟลนก้นในช่วงสุดท้าย จนทำให้งานออกมาไม่ดีอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ในตอนแรก

ลองนึกภาพตัวเองที่ตื่นมาในตอนเช้า ไม่ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวผ่ารถติดไปทำงานอีกวันละชั่วโมง แต่ใช้เวลาสบายๆ ในการนั่งกินกาแฟร้อนพร้อมกับอ่านข่าวหรือคอลัมน์ต่างๆ ที่น่าสนใจใน Social แล้วหลังจากนั้นจึงค่อยเริ่มทำงานก็ได้

มีวันหยุดในวันที่คุณอยากจะหยุด เบื่อไหมล่ะครับการการทำงานในขณะที่คนอื่นๆ หนีไปเที่ยวกันหมด ทั้งๆ ที่คนอื่นกำลังสนุกสนานกับวันหยุดยาวที่ทะเล กลับกลายเป็นเราที่ต้องมานั่งทำงานที่ออฟฟิศงกๆ คนเดียว

พอถึงคิววันหยุดของตัวเอง แทนที่จะได้ออกไปเที่ยวกับคนอื่น มันก็ดันเป็นช่วงมรสุม อดไปเที่ยวทะเลถ่ายรูปชิคๆ อย่างคนอื่นเขา หรือจะยืนใส่เสื้อกันฝนถ่ายรูปหน้าบ้าน ซึ่งก็ดูชิคแล้วก็น่าสงสารในเวลาเดียวกัน

ปัญหาทั้งหมดนี้จะหมดไปทันทีถ้าเกิดคุณเลือกที่จะทำงานแบบ “ฟรีแลนซ์” แบบเต็มตัว เพราะไม่จำเป็นจะต้องขอวันหยุดจากใคร ใครที่เบื่อกับวิถีชีวิตของตัวเองที่ซ้ำซากและจำเจแล้วนั้น ประตูสู่อิสรภาพที่มีชื่อว่าฟรีแลนซ์ยังคงรอคอยให้คุณเปิดอยู่นะครับ


ทํางานfreelanceไม่ต้องถูกกดหัว

2. ไม่ต้องถูกกดหัวเพียงแค่เพราะว่าอายุน้อยกว่าคนอื่นๆ

ในหัวข้อนี้อาจถูกใจบรรดาคนรุ่นใหม่ ที่ทำงานมาได้สักพักแล้วอยากจะได้โอกาสแสดงความคิดเห็นแสดงฝีมือออกมา แต่จะต้องถูกกดหัวและปัดตกไอเดียดีๆ ต่างๆ มากมาย ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่หรือเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา

สร้างความหงุดหงิดหัวเสียให้กับบรรดาเจ้าของไอเดียดีๆเป็นอย่างมาก ซึ่งบางคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมเราถูกปัดตกเพียงเพราะว่าเราอายุน้อยกว่า หรือมีอายุงานที่น้อยกว่าคนอื่น

ลองคิดดูสิครับ ถ้าเกิดเรามีไอเดียที่เจ๋งมากๆ ในหัว ซึ่งพอเสนอออกไปแทนที่จะได้รับการยอมรับฟังกลับปัดตก เพียงแค่เพราะว่าเรามีอายุงานน้อยกว่านั่นเอง

นี่เป็นความจริงที่น่าเศร้าที่เกิดขึ้นจากโครงสร้างของสังคม ที่เรามักจะถูกสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วว่า ต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่นะถึงจะเป็นเด็กดี ส่งผลทำให้เด็กๆ หลายคนไม่ค่อยกล้าที่จะแสดงออกต้องให้คนที่เป็นผู้ใหญ่คอยเป็นตัวตั้งต้น แล้วก็บ่นให้เราได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่า

“เด็กๆ เดียวนี้ไม่ได้เรื่องเลย ต้องให้บอกตลอด”

ไอ่ครั้งมีความกล้าอยากจะแสดงออกขึ้นมาก็จะถูกด่าว่า

“ข้ามหัวผู้ใหญ่ ไม่มีมารยาท” เอ้า!! ตกลงพี่อยากจะให้ผมทำยังไงกันแน่ครับ?

เอาเป็นว่าหลังจากที่มาเริ่มต้นทำงานอาชีพฟรีแลนซ์แล้วนั้น เราจะได้สิทธิในการเสนอไอเดียที่เราต้องการอย่างเต็มที่ เพราะลูกค้าเป็นคนหวังพึ่งเราในการทำงานนั่นเอง

ยกตัวอย่างเช่นหากลูกค้าต้องการนำเสนออย่างเช่น โฆษณาขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอย่าง facebook เราสามารถเลือกได้เลยว่าอยากจะทำเป็นแนวหนังสั้นเหมือนอย่าง Salmonhouse บริษัทผลิตหนังโฆษณาชื่อดังและน่าสนใจมากในประเทศไทย

หรือจะทำเป็นโฆษณาแปลกๆ ที่จะกลายเป็นไวรัลที่ทำให้หลายๆ คนพูดถึง โดยที่ไม่ต้องพูดถึงสินค้าเลยก็ได้ แต่เพียงขึ้นว่าแบนด์นี้ให้การสนับสนุนอยู่ แบบนี้เองก็ได้เช่นกัน เพราะถ้าเกิดเป็นไอเดียของคนทั่วไปแล้วละก็คงหนีไม่พ้นกับการยัดเยียดขายสินค้าแบบตรงๆ นั้นเอง

ประเภทที่โผล่มาพล่ามถึงสรรพคุณสินค้าที่เราไม่ได้อยากจะรู้ พร้อมกับยัดเหยียดมาให้ซื้อสิๆ น่าเบื่อพวกนั้น แหละครับ..

และจากรูปแบบในการชีวิตของคนเราในปัจจุบันแล้ว คนเราเลือกที่ดูคอนเทนต์ต่างๆ จากใน Social เช่นพวก Youtube netflix Viu อะไรแบบนี้มากกว่าที่จะเลือกดูจากในทีวีแล้ว จึงทำให้กลุ่มของผู้บริโภคนั้นมีทางเลือกเป็นอย่างมาก แบบนั้นโฆษณาที่ทำให้คนอยากดูได้ไม่มากพอ จึงมักจะถูกกด skip ข้ามไปแบบไม่มีความหมายนั่นเอง

ในสำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงานแล้ว ต่อให้นำเสนอสินค้าได้ไม่ชัดเจน ก็คงไม่เจ็บใจเท่ากับถูกเมินผลงานโดยการกด Skip ใช่ไหมล่ะครับ


ทํางานfreelanceชีวิตที่ออกแบบได้ตามใจ

3. มีไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ออกแบบได้ตามใจของเจ้าตัว

สำหรับใครที่เป็นมนุษย์เก็บตัวอย่างพวก introvert ไม่ชอบการพบปะผู้คนอยากหลีกหนีและเลี่ยงการเข้าสังคมและงานเลี้ยงต่างๆ ตอนนี้คุณจะได้เก็บตัวและใช้ชีวิตอยู่ในบ้านอันแสนสุขของคุณได้อย่างสุขใจ เพราะอาชีพฟรีแลนซ์นั้นสามารถเลือกสถานที่ทำงานของตัวเองได้อย่างอิสรเสรี ไม่ต้องทนไปนั่งทำงานข้างๆ ไอ่คนที่คุณเกลียดขี้หน้าอีกต่อไปและไม่ต้องทนอยู่ในห้องแคบๆ อีกด้วย

ไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟสวยๆ ไหมล่ะ หรือไปนั่งที่เงียบๆ อย่าง co-space แบบนั้นก็น่าจะดีเหมือนกันนะ เหมาะกับการทำงานดี นอกจากจะได้ผลงานและเงินกลับบ้านแล้วอาจได้ถ่ายรูป LifeStyle เท่ๆ คูลๆ ชิคๆ ไปลง Social ของตัวเองด้วยนะ

แต่ในสำหรับส่วนตัวของผมแล้วนั้น ทำงานที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่ากับทำงานที่บ้านของตัวเองหรอกครับ บ้านเป็นสถานที่ปลอดภัย รวมทั้งมอบสมาธิให้กับการทำงานของผมอย่างมาก

แต่ก็มีเพื่อนๆ หลายคนที่ทำงานฟรีแลนซ์เหมือนกัน บอกกับผมว่าร้านกาแฟนั้นมีบรรยากาศอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เรารู้สึกอยากทำงานปรกติ และทำให้สมองใช้ความคิดได้ดีมากกว่าเดิม ซึ่งอันนี้ผมไม่รู้ว่าจริงไหม เพราะไม่ค่อยชอบทำงานในสถานที่เต็มไปด้วยผู้คนมากนัก

น้ำไม่ต้องอาบ อยากพักไปนั่งดูหนังเมื่อไหร่ก็ทำได้ นั่งทำงานแบบสบายๆ ถึงเวลาส่งงานรับเงินจบ นี่แหละครับคือข้อดีที่มากที่สุดสำหรับคนที่ทำงานฟรีแลนซ์


อันนี้แย่บๆ กันอีกนิดหน่อยนะครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยมีปัญหาการเป็นโรคซึมเศร้าจากการทำงานประจำ เนื่องจากผมทำงานเป็นหัวหน้า แต่กลับไม่สามารถเข้ากับใครในองค์ได้เลย มีปัญหาทั้งโดนลูกน้องนินทาโดนแกล้งสารพัด จนตอนนี้ลาออกมาเป็นฟรีแลนซ์นั่งทำงานอยู่บ้านสุขภาพจิตดีขึ้นมากกว่าแต่เดิมเลยละครับ

ใครที่กำลังทำงานประจำอยู่แล้วพบว่าตัวเองพอจะมีช่องทางให้สามารถออกมาทำงานอิสระฟรีแลนซ์ได้แล้วนั้น แนะนำให้ลองดูสักครั้งในชีวิตนะครับถึงรายได้อาจลดน้อยลงบ้างแต่ความสุขที่จะได้นั้นเพิ่มพูนกลับขึ้นมาเรื่อยๆ เลย ไม่ว่าจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ หรือการที่ได้ทำแต่งานที่เรารักนะเอง

Share:

ติดตามเพื่อไม่พลาดทุกข่าวสาร และเรื่องราวดีๆ
สนใจบริการจัดทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร

เบอร์โทรศัพท์ : 065-021-9888
E-mail : freelance108.mkt@gmail.com