HIGHLIGHT
- ถึงแม้แบรนด์ของคุณจะมีคู่แข่งเยอะ มันก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป หากเราลงสนามถูก
- สนามแข่งของแบรนด์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Mass Marketing & Niche Marketing
- เลือกได้แล้สแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ลองมาปรึกษาเรา Freelance108 ได้ทุกเมื่อ
ตอนนี้ไม่ว่าแบรนด์อะไรก็เริ่มรุกตลาดออนไลน์มากขึ้น ทำให้ทุกคนต่างต้องเพิ่มขีดจำกัดด้านการแข่งขันมากขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งการที่เราต้องลงแข่งกับแบรนด์มากมาย โอกาสที่จะชนะคู่แข่ง หรือสามารถเบียดเอายอดขายมาได้ ควรจะต้องรู้ทางหนีทีไล่ให้ดีก่อน เพราะสนามแข่งระหว่างแบรนด์นั้นไม่เหมือนกัน หากเราเลือกแข่งผิดที่ ทำให้ตายก็ไม่มีวันชนะ
ดังนั้น Freelance108 จึงอยากมาแนะนำสนามแข่งอันดุเดือดระหว่างแบรนด์ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร
1. Mass Marketing
สนามแรกเป็นศึกของ Mass Marketing โดยความหมายของมันก็แปลได้ตรงตามชื่อนั่นแหละ เป็นการเน้นจำนวนการเข้าถึง หรือจำนวนการขายให้มียอดตัวเลขสูง ๆ เอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะซื้อขายอย่างไรก็ต้องได้จำนวนมากเอาไว้ก่อน ไม่ได้มีการเน้นอะไรเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ
ข้อดีก็คือ จุดเด่นที่เน้นไปในเรื่องของการสื่อสารวงกว้าง ต่อให้ไม่ใช่ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายหลัก ก็มีโอกาสเห็นสินค้าหรือบริการของแบรนด์ จากนั้นก็จะเกิดยอดขายขึ้นมาจากยอดการเข้าถึง ที่เราได้ปล่อยสื่อออกไป โดยอาจเป็นสิ่งที่ขายง่าย ผู้คนมีความต้องการซื้อในขั้นพื้นฐานอยู่แล้วด้วยส่วนหนึ่ง
ข้อเสีย เพราะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปต้องการอยู่แล้ว ทำให้มีคู่แข่งไม่น้อย ไหนจะการสื่อสารที่กระจัดกระจายไปทั่ว อาจเข้าไม่ถึงผู้บริโภคที่มีความต้องการจริง ๆ ได้ดีเท่าไหร่นัก
สรุป หากใครลงแข่งอยู่ในสนามนี้ อาจต้องเน้นเรื่องความแตกต่าง ไม่ให้เหมือนกับคู่แข่งรายอื่นที่มีอยู่เยอะแยะมากมาย และจะต้องพัฒนาตัวเองให้โดดเด่นขึ้นไปเรื่อย ๆ อีกด้วย
2. Niche Marketing
สำหรับด้าน Niche Marketing เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับ Mass Marketing อย่างสิ่นเชิง เนื่องจากสนามแข่งนี้จะมีความเฉพาะเจาะจง หรือเน้นการสื่อสารไปที่กลุ่มเป้าหมายเป็นพิเศษ จะไม่ได้ทำให้เกิดการกระจายไปทั่ว เพื่อเน้นสิ่งที่ลูกค้าต้องการให้ตรงจุดได้มากที่สุด ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่น กลุ่มขายรองเท้าสนีกเกอร์ , กลุ่มขายน้ำหอม , กลุ่มคนรักกล้องฟิล์ม และอื่น ๆ อีกมากมาย
ข้อดี คู่แข่งในตลาดไม่ค่อยมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเป็นสินค้าเพื่อคนเฉพาะกลุ่มจริง ๆ เรื่องการสื่อสารก็ไม่ต้องพึ่งพางบโฆษณาที่มากเกินไป เพราะเราต้องการสื่อให้คนบางกลุ่มเห็น หรือถูกใจอยู่แล้ว
ข้อเสีย แบรนด์หนที่เข้าแข่งในตลาดนี้ อาจต้องอาสัย Connection มากกว่าปกตินิดหน่อย รู้จักตลาดดีอยู่แล้ว มีข้อมูลกลุ่มเป้าหมายอยู่ในมือ(หรือสามารถหาเพิ่มเติมได้อย่างไม่ยากลำบาก) อีกทั้งต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มเป้าหมายได้ด้วย
สรุป ถ้าหากแบรนด์ของคุณกำลังลงแข่งในสนามนี้ ควรจะต้องมี Data เบื้องต้นเพื่อใช้ในการทำสื่อ (คอนเทนต์) เพื่อไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย และดึงดูดให้เขาเข้าหาคุณมากที่สุด ชิงส่วนแบ่งในตลาดกับคู่แข่งอันน้อยนิดมาให้ได้
สุดท้ายนี้เราอยากแนะนำนิดหน่อย ว่าต่อให้เป็น Mass Marketing หรือ Niche Marketing คุณควรจะต้องมีคอนเทนต์ หรือโฆษณาที่ต้องการใช้ ให้มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง เอาไว้ดึงดูดความสนใจจากผู้ติดตาม หรือลูกค้าทั่วไป ให้เข้ามาหาคุณมากที่สุด เพื่อสร้างยอดขายเพิ่มเติมได้ในอนาคต หากไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองเข้ามาปรึกษาเรา Freelance108 ได้ทุกเมื่อเลยนะครับ