HIGHLIGHT
- อยากเจรจาต่อรองให้ขั้นเทพ ต้องมีทริคดี ๆ ติดตัวไปด้วย
- 4 ทริคที่ทำให้การเจรจาต่อรอง ลื่นไหล ไม่มีสะดุด
- ถือเป็นทริคสำคัญที่ฟรีแลนซืทุกคน ควรมีติดตัว
หากคุณเป็นฟรีแลนซ์ฉายเดียว มองหางานหรือเสนอขายงานด้วยตัวเอง คุณยิ่งควรที่จะต้องมีทักษะการเจรจาด้วยกลไกอันชาญฉลาด ไว้สร้างเงื่อนไขในการเจรจาต่อรองให้ได้ประโยชน์มากที่สุด มิฉะนั้นการเตรียมงานของเราเพื่ออิกไปเสนอขายเพียงอย่างเดียวแล้วจบ อาจได้ในสิ่งสมควรได้ไม่ครบถ้วนก็ได้ ใครจะไปรู้ หากคุณไม่ลองดูเสียก่อน เอาละ ลองมาดูกันว่า 4 ทริคสำหรับการเจรจา จะมีอะไรดี ๆ บ้าง?
1. เตรียมข้อมูลเอาไว้ให้แน่นปึ้ก
ก่อนที่ฟรีแลนซ์ทั้งหลายจะก้าวเท้าออกจากบ้าน เพื่อเตรียมตัวไปเสนอขายงาน หรือเจรจาต่อรองกับลูกค้าสักรายหนึ่ง นอกจากจะต้องพกความมั่นใจเต็มร้อย ลดความตื่นเต้นให้เหลือน้อย คุณต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้ติดตัวไปด้วยเสมอ เช่น หาข้อมูลธุรกิจของลุกค้า หาจุดเด่น จุดด้อย ตัวเลขกำไร ขาดทุนไปให้ดี หรือถ้าเรื่องส่วนตัว อาจต้องเตรียมข้อดีข้อเสียของตัวเองไปให้พร้อมนำเสนอละ
2. เช็กก่อนว่าเราต้องการอะไรกันแน่
เพื่อให้ทุกครั้งในการต่อรอง เราไม่สูญเสียจุดยืนอันมั่นคงไป ไม่ว่าคุณจะเป็นฟรีแลนซ์สายไหน หากได้ยินเรื่องการรับผลประโยชน์สักเรื่อง คุณอาจจะหูผึ่งและตกลงไปในทันที โดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเลยว่า มันเป็นประโยชน์ที่คุณต้องการจริงมั้ย? และถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ คุณพลาดจุดไหนไปบ้าง จะได้มาปรับปรุงเพื่อครั้งต่อไป
3. มองหาคีย์หลักจากอีกฝ่ายให้ได้
อยากเป็นฟรีแลนซ์ที่มีความสามารถในการเจรจาต่อรองให้ลื่นไหล เราต้องเช็กข้อมูลมาให้พร้อม ว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการสิ่งไหนจากเรา หรือเขาต้องการอะไรมากที่สุด เพื่อให้เราได้มีโอกาสคุมเกม และสามารถยกระดับมูลค่าของการเจรจาต่อรอง ให้เราเป็นต่อมากที่สุด
4. ทำให้ผลลัพธ์ออกมา Win-Win ทั้งคู่
หากมองหาหนทางแล้วรู้สึกว่ามันไม่ลงตัวเสียที จะต่อรองไปอีกนานแค่ไหนก็ไม่น่าจบ แบบนี้อาจลองมองหา “จุดกึ่งกลาง” ที่จะทำให้คุณทั้งคู่ ได้รับประโยชน์ไปแบบ Win-Win กันทั้งคู่ เพราะความสำคัญต่อจากนี้มันจะไปอยู่ตรงที่ การเกื้อหนุนจุนเจือกันในระยะยาวต่อจากนี้ต่างหาก ที่จะทำให้เราได้ผลประโยชน์ร่วมกันอย่างแท้จริง
ถึงแม้ทั้งหมดนี้มันอาจดูไม่ยากเท่าไหร่นัก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ถึงเวลาต้องออกไปเจรจากับลูกค้าตัวเป็น ๆ และเป็นลูกค้าใหม่ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ฟรีแลนซ์ทั้งหลายจะรู้ดีว่า การมองโจทย์ในการเจรจาต่อรองแต่ละครั้ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน