Highlight
- ภาวะหมดไฟมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับฟรีแลนซ์ทุกคน
- 3 วิธีหลบหลีกภาวะหมดไฟ สำหรับฟรีแลนซ์
- ถ้าเมื่อไหร่จะหมดไฟ ให้ลองคิดถึงค่าใช้จ่ายเดือนหน้า
รู้กันดีอยู่แล้วว่า ความอิสระคือคำตอบที่ฟรีแลนซ์ทุกคนต้องการ ไม่ว่าคุณจะทำงานฟรีแลนซ์สายไหน ก็มักจะมีโอกาสได้เลือกที่ทำงานอยู่บ่อยครั้ง และแน่นอน จุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด ก็คือบ้านของตัวเอง ทว่าเหตุการณ์ที่ทุกคนต่างต้องกลัวในการทำงาน นั่นคือ “สภาะวหมดไฟในการทำงาน” ต่อให้คุณจะทำงานที่บ้าน ทำงานนอกบ้าน หรือที่ไหนก็แล้วแต่ เจ้าสภาวะนี้ มันสามารถตามมาหลอกหลอนคุณได้ทุกครั้งที่มันมีโอกาส ทางที่ดี เราจึงไม่ควรเปิดโอกาสให้มันเข้ามาแม้แต่น้อย ด้วย 3 วิธีหลบหลีกภาวะหมดไฟ
1.แต่งตัวให้เหมือนไปทำงานจริงทุกวัน
ข้อแรกนั้นถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อให้คุณได้รู้สึกเหมือนว่าได้ทำงานจริงอยู่ทุกวัน เนื่องจากปัญหาของฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่ มักจะมีความรู้สึกแทรกเข้ามาเสมอมา นี้คือวันหยุดของฉัน หรืองานทุกชิ้นมันไม่ใช่งานประจำที่ระเบียบเวลาตรงเป๊ะ อีกตั้งนานกว่าจะถึงเดทไลน์ ฉันจะทำตอนไหนก็ได้ แบบนี้เป็นความคิดที่ไม่ดีนัก การแต่งตัวให้เหมือนเข้าออฟฟิศทุกวัน มันจึงช่วยพยุงให้จิตใจของเราแกร่งมากพอที ที่จะทำงานจริงจังได้ตลอดวัน
2.วิเคราะห์เวลาทำงานสุดรุ่งโรจน์ของคุณ
ถัดมาเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ที่คุณสามารถสร้างความได้เปรียบในการทำงานของตัวเอง นั่นก็คือ การวิเคราะห์หาช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ ในการทำงานของคุณ เคยไหมนั่งทำงานอยู่แล้วจะมีจังหวะหนึ่งที่จู่ ๆ สมองก็แล่นจนงานไหลออกมาไม่มีหยุด นั่นแหละ พยายามหาช่วงเวลาแบบนั้นให้เจอ แล้วใมช้ประโยชน์จากมันซะ
3.โฟกัสงานให้อยู่หมัด อย่าวอกแวก
สุดท้ายนั้นสำคัญมาก ต่อให้คุณไม่ใช่ฟรีแลนซ์ ก็สามารถนำเอาไปปรับใช้งานได้ และควรมีข้อนี้อย่างยิ่ง ไม่ว่มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพราะ การโฟกัสการทำงานให้อยู่หมัดตลอดทั้งวัน ต่อให้คุณคิดอย่างเชื่องช้า แต่ถ้าหากมันถูกทำอย่างต่อเนื่อง งานของคุณจะเดินหน้า มากกว่าทำ ๆ หยุด ๆ แน่อน
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการหลีกเลี่ยงภาวะหมดไฟกับการทำงาน ที่อยากให้ฟรีแลนซ์หลาย ๆ คนได้ลองเอาไปปรับใช้กัน อย่าทำงานเพียงเพราะคิดว่ายังมีกำลัง แต่ให้คิดเสียว่า ถ้าทุกวันนี้ฉันหมดไฟไม่ทำงาน จะเอาอะไรไปจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรเครดิต และค่าบำเรอสุขอีกมากมาย!
