HIGHLIGHT
- เทรนด์การตลาดเเบบหยิบยกประโยชน์จากไซเบอร์บูลลี่
- เกิด Engagement แบบออแกนิคจากการสร้างความตลกความฮา
- เห็นผลชัดเจนโดยไม่ต้องเสียเงินยิงแอดเลยทีเดียว
ถ้าใครเคยได้ยินมุขที่ 3 น้าจากเเก็ง 3 ช่า เคยแซวเล่นกันแบบนี้ ทุกคนก็จะนึกขึ้นได้ทันทีว่ามันหมายถึงอะไร เช่น
- “ร้านบะหมี่ เส้นเหนียวกินเเล้วท้องเสียหรือน้ำซุปกะโหลกสุนัข”
- “ร้านขนมจีน เส้นอย่างกับลวด ลูกชิ้นให้น้อยขนาดเท่าชาไข่มุก”
- “ร้านอาหารที่หลังตลาดมีเปิดบ่อน”
ถ้ารู้ว่ามันหมายถึงอะไรก็เเสดงว่าคุณได้โดนกลยุทธ์การตลาด เเบบ Bully marketing เข้าให้เเล้ว เพราะเเค่ผมบอกมุขขึ้นมาโดยไม่เอ่ยถึงชื่อเเบรนด์หรือสินค้าเลย คุณก็นึกออกมาได้โดยทันทีที่ได้อ่าน
.
กลยุทธ์ Bully marketing โดยที่มาของเทรนด์การตลาดเเบบนี้นั้น เกิดมาจากการหยิบยกประโยชน์จากไซเบอร์บูลลี่ (Cyberbullying) ที่เป็นการกลั่นแกล้งกันผ่านโลกออนไลน์ เช่น การโพสข้อความโจมตี บนสื่อเฟซบุ๊ก การหลอกลวง การส่งข้อความคุกคามทางเพศ ใช้ถ้อยคำหยาบคายจนทำให้อีกฝ่ายอับอายและรู้สึกเจ็บปวด มาใช้ในตัวสินค้าเเละผลิตภัณฑ์ในเชิงบวก
ก่อให้เกิดเป็นกระเเสไวรัลขึ้นมาบนโลกออนไลน์ เกิดเป็นกระแสเป็น Meme หรือมุมตลกในโลกออนไลน์เเละเกิด Engagement แบบออแกนิคที่ถ้ามันสร้างความตลกความฮาก็จะเกิดกระเเสจะเกิดการแชร์เเละบอกกันเป็นปากต่อปากกันเร็วมากใน Social media ต่างๆ
เราของยกตัวอย่างอีก “เคส” ที่เห็นได้ชัดเจนจากการใช้ประโยชน์ในเชิงบวกของ ไซเบอร์บูลลี่ เป็น Bully marketing เเบบไม่รู้ตัวเลยคือ “เจ้น้ำ” เเละ “พิมรี่ พาย”
จะสังเกตกลยุทธ์เเละพฤติกรรมของ 2 คน ในการขายสินค้านั้นจะเป็นลักษณะปากร้ายเเต่ใจดีด่าลูกค้าแต่ด่าเเบบเชิงบวกด่าเชิงบวก ก็คือ
- การด่าเเบบติดตลก ด่าเเบบไม่ได้เจตนากดลูกค้าให้ลง
- หรือต้องการเอาชนะอะไรเป็นการด่าเเบบพี่ด่าน้องถึงจะว่าถึงจะด่า เเต่ก็เป็นการด่าเตือนสติเราเเละให้กำลังใจเราสร้างความเชื่อใจ
เเสดงถึงความจริงใจของเเม่ค้า ทำให้ลูกค้าที่เป็นจุดสนใจที่โดนด่าอยู่นั่น ตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้นเเต่ไม่ใช่ว่าทุกธุรกิจจะต้องด่า ลูกค้าอย่างเดียว แต่เราสามารถนำ Bully marketing มาประยุกต์ด่าตัวเองก็ได้เช่นกัน
เช่น “เคส” ของน้ำพริกแคบหมูยายน้อย จะเป็นการเล่นมุกกับตัวสินค้าตัวเอง เเละ Bully สินค้าตัวเองสร้างความตลกเเละเปิดโอกาสให้ คนบนโลกออนไลน์ Bully สินค้ากับตัวเองได้จนเกิดเป็นไวรัล อาทิ
- น้ำพริกยายน้อย อร่อยให้ 6 สกปรกให้ 10
- น้ำพริกยายน้อย ดื่มน้ำทั้งมหาสมุทร ก็ยังไม่หยุดติดคอ
- น้ำพริกยายน้อย อยากกินก็ลองเสี่ยงดู ชีวิตนึ่งมีหนึ่งครั้งก็ลองเสี่ยงดู
- เรียกเสียงฮาเเละได้แชร์ทันที จะสังเกตว่าทุกคนจะมีการขึ้นต้นด้วย
- ชื่อเเบรนด์ตลอดเป็นการสร้างการโต้ตอบกับลูกค้าให้เกิดความสนใจเเละ
- จดจำของสินค้านั่นได้เอง สั่งไม่สั่งก็ ไม่ว่าเเต่ก็ได้ 1 แชร์เเล้วครับโดยไม่ต้องยิงแอดเลย
หรืออีกตัวอย่างนึ่งครับคือ “เอ็ด 7 วิ” เป็นแนวคลิปไวรัล โดยใช้ Bully marketing ของที่นี้นั่นจะไม่เน้นด่าสินค้า เเต่จะเป็นเน้นด่าตัวเองให้ดูฮาเเทน บอกเล่าถึงความซวยของตัวเอง ตัวอย่างเช่น ขายสินค้าที่เป็นบริการจองโรงเเรมออนไลน์ ที่เป็นรูปหน้าหมี เอ็ด 7 วิ จะขายในลักษณะการเปรียบเทียบ โรงเเรมประหยัดเเละโรงเเรมเเพง โดยเสริมความจิกกัดตัวเองใช่นิสัยส่วนที่ฮาหรือ DNA ของตัวเองเข้าไปในสินค้า
- “โรงเเรมถูก” ก็จะพื้นที่ใช้สอยน้อยเเต่ก็อยู่ได้นะเเต่ก็ระวังหัวหน่อยเพราะมันเเคบ
- “โรงเเรมเเพง” ก็เเอบขโมยของกลับบ้านนิดหน่อยกลัวไม่คุ้มราคา
สร้างความตลกร้ายเเบบเน้นความ Real ที่พบเจอได้ในชีวิตประจำวัน สร้างความฮา สร้างความตลกร้ายนิดๆ เเต่ก็ได้เสียงฮาเเละการจดจำทั้งตัวชื่อ “เอ็ด 7 วิ” เเละตัวสถานการณ์ในคลิปที่มีสินค้าเเละเเบรนด์นั่นได้โดยทันทีอีกด้วย
สรุปข้อดี-ข้อเสียการทำ Bully marketing
- ข้อดี คือ มันเกิด Engagement แบบออแกนิค
เกิดการโต้ตอบเเบบเห็นผลชัดเจนโดยไม่ต้องเสียเงินยิงแอดเลย
แม้เเต่บาทเดียวเราใช้ตัวสินค้า มาเป็นตัวหลักสร้างเป็นไวรัล มาร์เก็ตติ้ง
เเต่ไม่ต้องลงทุนเยอะขนาดนั้นเป็น Meme หรือมุกตลกบนโลก Online
ทำให้เกิดการแชร์และปากต่อปากกันได้ง่ายและตัวสินค้าเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว
- ข้อเสีย คือ อาจจะไม่เหมาะกับธุรกิจที่เน้นการบริการ
เช่น กิจการโรงแรม สถานที่บริการที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหรือสินค้าที่เกี่ยวกับเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี
การใช้กลยุทธ์นี้อาจไม่เหมาะสมนัก เพราะอายุที่ต่ำกว่า 15 อาจจะไม่มีวิจารณญาณ
ในการใช้สื่อเเละอาจแยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นตลกเชิงบวกอันไหนเป็นดราม่า
ซึ่งอาจส่งผลในทางที่ลบในกับสินค้าเเละบริการของเราได้
ถ้าจะใช้กลยุทธ์ นี้เราต้องพยายามสร้างจุดที่ไม่ให้มันผิดศีลธรรม
เเละจริยธรรมหรือการล่อลวงใดๆ เป็นเด็ดขาดครับไม่งั้นมันจะไม่ก่อให้เกิด
Bully marketing ในเชิงบวกที่เกิดผลดีต่อสินค้าของเราเเต่มันจะกลายเป็นผลลบ
เเทนครับถ้าจะใช้กลยุทธ์นี้ต้องให้ความสำคัญกับความเหมาะสมเเละ
กลุ่มเป้าหมายหลักของเราให้ดีๆ ก่อนสร้าง Bully marketing ของสินค้าเรา