Highlight
- อันตรายของแสงสีฟ้า Blue Light จากหน้าจอ
- ข้อดีของการใช้งาน Dark Mode ในเรื่องสุขภาพ
- Dark Mode ช่วยให้ Focus เรื่องงานได้จริงหรอ
หากเราลองนึกย้อนไปช่วงแรก ๆ ที่สมาร์ทโฟนจอใหญ่เริ่มเข้ามาตีตลาดในประเทศไทย ก็มีประเด็นหนึ่งเกิดขึ้นตามมาติด ๆ อย่างปัญหาจาก “แสงสีฟ้า” ที่ส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพสายตา และร่างกายของเราโดยตรง ทำให้เมื่อช่วงเวลาผ่านไปจนมาถึงปัจจุบัน หลายแอปพลิเคชั่น และแพลตฟอร์ม ต่างก็พัฒนาฟัง์ชั่นใหม่ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวให้ได้ ซึ่งมันก็คือ “Dark Mode” นั่นเอง
เพราะจากทดลองในสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้คนที่ได้รับแสง Blue Light กว่า 30% จะเกิดอาการ ปวดตา ตาล้า ตาเบลอ ปวดไหล่ และปวดคอ แถมยังมีปัญหาไปจนถึงเรื่องการหลั่งเมลาโทนินของสมอง อันเป็นปัญหาโดยตรงต่อการนอนหลับด้วย และนี่แหละ ความสำคัญในการมาของ “Dark Mode” ฟรีแลนซ์ที่จ้องคอมนอนอย่าลืมปรับไปใช้ เพื่อดูแลสุขภาพกันด้วยละ
ทั้งนี้นอกจากเรื่องการแก้ปัญหาสุขภาพแล้ว ทาง Apple ยังออกมาคอนเฟิร์มข้อมูลอีกว่า เจ้า “Dark Mode” เนี่ย มันช่วยทำให้เราโฟสกัสกับงานได้มากกว่าปกติด้วยนะ ไหนจะช่วยประหยัดพลังงานได้ดีขึ้นอีก (แต่มีผลประหยัดพลังงานแค่กับหน้าจอ OLED เท่านั้น) ฟรีแลนซ์คนไหนใช้ iPhone 11 pro ขึ้นไปก็ลองเช็กดูกันได้ ไหน ๆ Apple เขาก็คอนเฟิร์มมาแล้วอ่ะนะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสการใช้งานด้วยว่า ครั้งไหนที่คุณควรใช้สีจอปกติ เพื่อตอบสนองร่างกาย หรือครั้งไหนควรใช้ “Dark Mode” เพื่อให้สบายตาและรักษาสุขภาพ เอาล่ะ เหล่าฟรีแลนซ์ว่าไงกันบ้าง ทุกวันนี้ใช้โหมดไหนทำงานกันอยู่หรอ ลองมาแชร์กันหน่อยเป็นไง?